Super User

Super User

   

สายด่วนติดต่อหน่วยงานราชการ

ชื่อหน่วยงาน โทร
ศูนย์บริการภาครัฐเพื่อประชาชน 1111
วุฒิสภา 1102
กรมศุลกากร 1164
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 1166
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1171
ศูนย์บริการข่าวอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา 1182
สายด่วนประกันภัย 1186
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362
สายด่วนศาลปกครอง 1355
สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน 02-547-1806
กรมการค้าต่างประเทศ 1385
สำนักงานประกันสังคม 1506
กรมการปกครอง สำนักทะเบียนราษฎร์ 1548
ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567
กระทรวงศึกษาธิการ 1579
กระทรวงพลังงาน 02-129-3344
ศูนย์บริการร่วม กระทรวงพลังงาน 02-140-7000
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1672
ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา 1676
กรมการจัดหางาน 1694
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงการคลัง 1689
กรมสรรพสามิต 1713
กระทรวงวัฒนธรรม 1765
   

สายด่วนสำหรับแจ้งเหตุเกี่ยวกับสาธารณูปโภค

ชื่อหน่วยงาน โทร
การไฟฟ้านครหลวง 1130
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1129
การประปานครหลวง 1125
การประปาส่วนภูมิภาค 1662
ชลประทานบริการประชาชน 1460
   

สายด่วนบริการทางการแพทย์

ชื่อหน่วยงาน โทร
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 1330
ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี 1367
สายด่วนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 1556
สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย 02-251-0385, 02-251-0582, 02-252-6913
สายด่วนศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 1666
สายด่วนกรมสุขภาพจิต 1667
   

สายด่วนแจ้งเหตุฉุกเฉิน/กู้ชีพ/กู้ภัย

ชื่อหน่วยงาน โทร
ศูนย์ประชาบดี แจ้งคนหาย 1300
ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356
หน่วยแพทย์กู้ชีวิต วชิรพยาบาล 1554
ศูนย์ร้องทุกข์กรุงเทพมหานคร 1555
ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร 1646
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 192
   

สายด่วนสำหรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย

ชื่อหน่วยงาน โทร
แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้ายทุกชนิด 191
แจ้งอัคคีภัย สัตว์เข้าบ้าน 199
ศูนย์ความปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท 1146
สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155
ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 1192
กองปราบปราม 1195
อุบัติเหตุทางน้ำ กองบัญชาการตำรวจ 1196
สายด่วนกรมเจ้าท่า, เหตุด่วนทางน้ำ 1199
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร 02-241-2051
กรมควบคุมมลพิษ 1650
ศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมี 02-298-2387, 086-130-2386
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1784

ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาคมอาเซียนด้านสาธารณสุข จังหวัดน่าน

Center of ASEAN Health Network Collaboration : AHNC. Nan, THAILAND.

 

         กิจกรรมที่สำคัญของโครงการสนับสนุนการเป็นเมืองศูนย์กลางบริการสุขภาพในอาเซียน กระทรวงสาธารณสุข คือ การจัดตั้งศูนย์ประสานงานเครือข่ายรองรับประชาคมอาเซียนในระดับจังหวัด เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในด้านการบริหารจัดการ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน ตลอดถึงเป็นจุดรวมข้อมูลข่าวสารรองรับการดำเนินการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558

         เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน จึงได้จัดตั้ง ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาคมอาเซียนด้านสาธารณสุข จังหวัดน่าน

โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

ชื่อศูนย์ : ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาคมอาเซียนด้านสาธารณสุข จังหวัดน่าน (Center of ASEAN Health Network Collaboration : AHNC)

สถานที่ตั้ง : กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ถ.น่าน-ทุ่งช้าง ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน 55000 โทร. 0-5460-0080

 

ขอบเขตงานของศูนย์ประสานงานฯ

         ในขอบเขตการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานด้านสาธารณสุขอาเซียน จังหวัดน่าน ได้มีการกำหนดขอบเขตภารกิจของแต่ละกลุ่มงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ให้สอดคล้องกับ 3 เสาหลัก (Pillars) คือ เสาหลักประชาคมการเมืองและความมั่นคง (ASEAN Political-Security Community: APSC) เสาหลักประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) และเสาหลักประชาคมสังคม-วัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community: ASCC) และศูนย์ประสานงานด้านสาธารณสุขอาเซียน มีการดำเนินการประสานความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายภายในจังหวัดน่าน และระหว่างประเทศ 

บทบาทหน้าที่ของศูนย์ประสานงานฯ

1. เป็นศูนย์ประสานงาน ข้อมูล แผนงาน กิจกรรม และประเมินผลงานสาธารณสุขอาเซียน จ.น่าน

2. สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขให้มีความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

3. สนับสนุนหน่วยบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพมาตรฐาน

4. ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประชาคมอาเซียน

5. ประชาสัมพันธ์งานสาธารณสุขอาเซียน 

 

กฎบัตรอาเซียน (ASEAN CHARTER) หรือธรรมนูญอาเซียน

         กฎบัตรอาเซียน เปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญของอาเซียนที่จะทำให้อาเซียนมีสถานะเป็นนิติบุคคล เป็นการวางกรอบทางกฎหมายและโครงสร้างองค์กรให้กับอาเซียน โดยนอกจากจะประมวลสิ่งที่ถือเป็นค่านิยม หลักการ และแนวปฏิบัติในอดีตของอาเซียนมาประกอบกันเป็นข้อปฏิบัติอย่างเป็นทางการของประเทศสมาชิกแล้ว ยังมีการปรับปรุงแก้ไขและสร้างกลไกใหม่ขึ้น พร้อมกำหนดขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบขององค์กรที่สำคัญในอาเชียนตลอดจนความสัมพันธ์ในการดำเนินงานขององค์กรเหล่านี้ ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนให้สามารถดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนการรวมตัวของประชาคมอาเซียน ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2558 ตามที่ผู้นำอาเซียนได้ตกลงกันไว้

         ทั้งนี้ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองกฎบัตรอาเซียน ในการประชุมสุดยอดยอดเซียน ครั้งที่ 13เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ณ ประเทศสิงคโปร์ ในโอกาสครบรอบ 40 ของการก่อตั้งอาเซียน แสดงให้เห็นว่าอาเซียนกำลังแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความก้าวหน้าของอาเซียนที่กำลังจะก้าวเดินไปด้วยกันอย่างมั่นใจระหว่างประเทศสมาชิกต่าง ๆ ทั้ง 10 ประเทศ และถือเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญที่จะปรับเปลี่ยนอาเซียนให้เป็นองค์กรที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลในฐานะที่เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล ประเทศสมาชิกได้ให้สัตยาบันกฎบัตรอาเซียน ครบทั้ง 10 ประเทศแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน2551 กฎบัตรอาเซียนจึงมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2551 เป็นต้นไป

วัตถุประสงค์ของกฎบัตรอาเซียน

วัตถุประสงค์อของกฎบัตรอาเซียน คือ ทำให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีประสิทธิกาพ มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเคารพกฎกติกาในการทำงานมากขึ้น นอกจากนี้ กฎบัตรอาเซียนจะให้สถานะนิติบุคคลแก่อาเซียนเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาล (intergovernmental organization)

โครงสร้างและสาระสำคัญของกฎบัตรอาเซียน

กฏบัตรอาเชียน ประกอบด้วยบทบัญญัติ 13 หมวด 55 ข้อ ได้แก่

หมวดที่ 1 ความมุ่งประสงค์และหลักการของอาเซียน

หมวดที่ 2 สภาพบุคคลตามกฏหมายของอาเชียน

หมวดที่ 3 สมาชิกภาพ (รัฐสมาชิก สิทธิและพันธกรณีของรัฐสมาชิก และการรับสมาชิกใหม่

หมวดที่ 4 โครงสร้างองค์กรของอาเซียน

หมวดที่ 5 องค์กรที่มีความสัมพันธ์กับอาเซียน

หมวดที่ 6 การคุ้มกันและเอกสิทธิ์

หมวดที่ 7 กระบวนการตัดสินใจ

หมวดที่ 8 การระงับข้อพิพาท

หมวดที่ 9 งบประมาณและการเงิน

หมวดที่ 10 การบริหารและขั้นตอนการดำเนินงาน

หมวดที่ 11 อัตลักษณ์และสัญลักษณ์ของอาเซียน

หมวดที่ 12 ความสัมพันธ์กับภายนอก

หมวดที่ 13 บทบัญญัติทั่วไปและบทบัญญัติสุดท้าย

         กฎบัตรอาเชียนช่วยให้อาเซียนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เสริมสร้างกลไกการติดตามความตกลงต่างๆ ให้มีผลเป็นรูปธรรม และผลักดันอาเซียนให้เป็นประชาคมเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

กฎบัตรอาเชียนช่วยให้อาเซียนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไร

         มีข้อกำหนดใหม่ๆ ที่ช่วยปรับปรุงโครงสร้างการทำงานและกลไกต่างๆ ของอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหา เช่น

1. กำหนดให้เพิ่มการประชุมสุดยอดอาเซียนจากเดิมปีละ 1 ครั้ง เป็นปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผู้นำมีโอกาสหารือกันมากขึ้น พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงทางการเมืองที่จะผลักดันอาเซียนไปสู่การรวมตัวกันเป็นประชาคมในอนาคต

2. มีการตั้งคณะมนตรีประจำประชาคมอาเซียนตามเสาหลักทั้ง 3 ด้าน คือ การเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม

3. กำหนดให้ประเทศสมาชิกแต่งตั้งเอกอัคราชฑูตประจำอาเซียนไปประจำที่กรุงจาการ์ตา ซึ่งไม่เพียงแต่จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจแนวแน่ของอาเซียนที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อมุ่งไปสู่การรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนในอนาคต และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วมประชุมและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานระหว่างประเทศสมาชิก

4. หากประเทศสมาชิกไม่สามารถตกลงกันได้โดยหลักฉันทามติ ให้ใช้การตัดสินใจรูปแบบอื่นๆ ได้ตามที่ผู้นำกำหนด

5. เพิ่มความยืดหยุ่นในการตีความหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน โดยมีข้อกำหนดว่าหากเกิดปัญหาที่กระทบต่อผลประโยชน์ส่วนร่วมของอาเซียน หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ประเทศสมาชิกต้องหารือกันเพื่อแก้ปัญหา และกำหนดให้ประธานอาเซียนเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

กฎบัตรอาเซียนจะเสริมสร้างกลไกการติดตามความตกลงต่างๆ ให้มีผลเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

         กฎบัตรอาเซียนสร้างกลไกตรวจสอบและติดตามการดำเนินการตามความตกลงต่างๆ ของประเทศสมาชิกในหลากหลายรูปแบบ เช่น

1. ให้อำนาจเลขาธิการอาเซียนดูแลการปฏิบัติตามพันธกรณีและคำตัดสินขององค์กรระงับข้อพิพาท

2. หากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงต่างๆ ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างรัฐสมาชิกสามารถใช้กลไกและขั้นตอนระงับข้อพิพาททั้งที่มีอยู่แล้ว และที่จะตั้งขึ้นใหม่เพื่อแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้นโดยสันติวิธี

3. หากมีการละเมิดพันธกรณีในกฎบัตรฯ อย่างร้ายแรง ผู้นำอาเซียนสามารถกำหนดมาตรการใดๆ ที่เหมาะสมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อรัฐผู้ละเมิดพันธกรณี

กฎบัตรอาเซียนช่วยให้อาเซียนเป็นประชาคมเพื่อประชาชนได้อย่างไร

         ข้อบทต่างๆ ในกฎบัตรอาเซียนแสดงให้เห็นว่าอาเซียนกำลังผลักดันองค์กรให้เป็นประชาคมเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง จึงกำหนดให้การลดความยากจนและลดช่องว่างการพัฒนาเป็นเป้าหมายหนึ่งของอาเซียนกฎบัตรอาเซียนเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนและภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในอาเซียนผ่านการมีปฏิสัมพันธ์กับองค์กรต่างๆ ของอาเซียนมากขึ้น ทั้งยังกำหนดให้มีความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสมัชชารัฐสภาอาเซียน ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของประเทศสมาชิกกำหนดให้มีการจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียน เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

ความสำคัญของกฎบัตรอาเซียนต่อประเทศไทย

         กฎบัตรอาเซียน ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามพันธกรณีต่างๆ ของประเทศสมาชิก ซึ่งจะช่วยสร้างเสริมหลักประกันให้กับไทยว่า จะสามารถได้รับผลประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นอกจากนี้ การปรับปรุงการดำเนินงานและโครงสร้างองค์กรของอาเซียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการเสริมสร้างความร่วมมือในทั้ง 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียนจะเป็นฐานสำคัญที่จะทำให้อาเซียนสามารถตอบสนองต่อความต้องการและผลประโยชน์ของรัฐสมาชิก รวมทั้งยกสถานะและอำนาจต่อรอง และภาพลักษณ์ของประเทศสมาชิกในเวทีระหว่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเอื้อให้ไทยสามารถผลักดันและได้รับผลประโยชน์ด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น

         – อาเซียนขยายตลาดให้กับสินค้าไทยจากประชาชนไทย 60 ล้านคน เป็นประชาชนอาเซียนกว่า 550 ล้านคน ประกอบกับการขยายความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางคมนาคม ระบบไฟฟ้า โครงข่ายอินเตอร์เน็ต ฯลฯ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับไทย

         นอกจากนี้ อาเซียนยังเป็นทั้งแหล่งเงินทุนและเป้าหมายการลงทุนของไทย และไทยได้เปรียบประเทศสมาชิกอื่นๆ ที่มีที่ตั้งอยู่ใจกลางอาเซียน สามารถเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมและขนส่งของประชาคม ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และบุคคล ระหว่างประเทศสมาชิกที่สะดวกขึ้น

         – อาเซียนช่วยส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเผชิญกับภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เช่น SARs ไข้หวัดนก การค้ามนุษย์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หมอกควัน ยาเสพติดปัญหาโลกร้อน และปัญหาความยากจน เป็นต้น

         – อาเซียนจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองของไทยในเวทีโลก และเป็นเวทีที่ไทยสามารถใช้ในการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาของเพื่อนบ้านที่กระทบมาถึงไทยด้วย เช่น ปัญหาพม่า ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์พหุภาคีในกรอบอาเซียนจะเกื้อหนุนความสัมพันธ์ของไทยในกรอบทวิภาคี เช่น ความร่วมมือกับมาเลเซียในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม
– Asean คืออะไร คลิ๊กที่นี่ –>> Asean คืออะไร <<–
– AEC คืออะไร คลิ๊กที่นี่ –>> AEC คืออะไร <<–
– ความเป็นมา Asean คลิ๊กที่นี่ –>> ความเป็นมา Asean <<–
– ข้อมูลภูมิภาคอาเซียน คลิ๊กที่นี่ –>> Download <<–

ที่มา: ประชาคมอาเซียน.net

อ่านต่อ: http://www.thai-aec.com

Page 2 of 3
JSN Nuru template designed by JoomlaShine.com
นโยบาย Cookie

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น